บทความ

พ.ย. 04, 2025

รอบเช้า vs รอบบ่าย รังสี UV ต่างกันแค่ไหน และมันส่งผลต่อริ้วรอยจริงหรือเปล่า

สนามกอล์ฟคือสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่ “ซื่อตรง” กับผิวมากที่สุด แดด ลม ความชื้นที่เปลี่ยนตลอดวัน และแสงสะท้อนจากหญ้า ทราย สระน้ำ ล้วนรวมพลังเป็นปัจจัยเร่งผิวเสื่อมก่อนวัยอย่างค่อยเป็นค่อยไป คำถามที่นักกอล์ฟหญิงจำนวนมากสงสัยคือ “ออกรอบเช้ากับบ่าย แดดต่างกันแค่ไหน และริ้วรอยเกิดมากกว่าจริงหรือเปล่า?” บทความนี้ชวนมองทั้งเชิงวิทยาศาสตร์ผิวหนังและเชิงปฏิบัติ เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจได้จริงตั้งแต่การเลือกเวลาออกรอบ การทากันแดด ไปจนถึงแผนดูแล ฟื้นฟูหลังออกรอบ 

แดดเช้า–บ่ายไม่เท่ากัน เข้าใจสเปกตรัมรังสีและ “มุมตกกระทบ” 

UVA (320–400 นาโนเมตร) คือรังสีที่แทรกทะลุเมฆ กระจกได้ดีและทะลุถึงหนังแท้ กระตุ้นเอนไซม์ทำลายคอลลาเจน (MMPs) ทำให้ผิวหยาบ ยืดหยุ่นลดลง จนเห็นเป็นริ้วรอยและผิวหย่อนในระยะยาว ส่วน UVB (280–320 นาโนเมตร) ดูดซับที่ผิวชั้นนอก ทำให้ผิวไหม้ แดง และเป็นตัวการจุดกระดำกระด่างหลังแดด (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) 

ปริมาณรังสีที่ผิวรับจริงขึ้นกับ มุมตกกระทบของแสง ระหว่างวัน 

  • เช้า (ก่อน 10:00) มุมแดดยังเอียง ความเข้ม UVB ยังไม่พุ่ง แต่ UVA มีสัดส่วนสูงกว่าที่คิด (แม้มีเมฆ) จึงเป็นช่วง “ดูนุ่ม” แต่ทำให้คอลลาเจนสึกโดยที่ไม่ทันสังเกต 
  • สายถึงบ่ายต้น (10:00–14:00) มุมแดดชันขึ้น ความเข้มทั้ง UVA/UVB สูงสุด โดยเฉพาะ UVB โอกาสผิวไหม้และกระตุ้นเม็ดสีสูง 
  • บ่ายปลาย (หลัง 15:30) UVB ลดลง แต่ UVA ยังต่อเนื่อง รวมกับแสงสะท้อนในสนาม ทำให้โดสสะสมของ UVA ตลอดวันสูงกว่าที่คิด 

บทสรุปเชิงเวลา 

  • ต้องการลดความเสี่ยงผิวไหม้ → เช้าตรู่หรือบ่ายปลายช่วยได้ 
  • ต้องการลดความเสี่ยงริ้วรอยระยะยาว → ไม่ว่าช่วงไหน UVA ยังทำงาน การปกป้องจึงสำคัญพอ ๆ กัน 

ทำไมสนามกอล์ฟ “แรงกว่าเดินถนน” 

สนามกอล์ฟมี พื้นผิวสะท้อน หลายชนิด หญ้าเขียวชื้นสะท้อนบางย่านคลื่น แซนด์บังเกอร์สะท้อนแบบ diffuse สูง สระน้ำสะท้อนแบบกระจก โดยรวมเพิ่ม โดส UV ทางอ้อม แม้อยู่ใต้ร่มหรือมีเมฆบาง ๆ ความยาวแฟร์เวย์ที่เปิดโล่งกับลมพัดสม่ำเสมอทำให้ “ไม่รู้สึกร้อน” แต่ผิวรับรังสีอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง นี่คือเหตุผลที่นักกอล์ฟจำนวนมาก “ไม่แดงทันที แต่โทรมเรื้อรัง” 

จากแสงสู่ริ้วรอย กลไกที่เกิดจริงในผิว 

  1. คอลลาเจนเสื่อมเชิงคุณภาพ: UVA กระตุ้น MMP-1 ทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน เส้นใยใหม่ที่สร้างขึ้นมีโครงสร้างหยาบกว่าเดิม ผิวจึง “ยวบ” และเกิดริ้วรอยเส้นเล็กเร็วขึ้น 
  2. อนุมูลอิสระสะสม: โดส UVA ต่อเนื่องเพิ่ม ROS ทำให้เกิด glycation ในคอลลาเจน (แข็ง เปราะ ไม่ยืดหยุ่น) 
  3. เม็ดสีเหนี่ยวนำเรื้อรัง: UVB ทำให้ผิวอักเสบเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ เกิดฝ้า/กระง่ายขึ้นโดยเฉพาะโหนกแก้ม–ขอบกรอบตา (ตำแหน่งที่รับแสงเฉียงและสะท้อนซ้ำ) 

ผลที่เห็นจริงในนักกอล์ฟหญิงคือ “ริ้วตื้นถี่” รอบหางตา “โหนกแก้มด้านนอกแห้งหมอง” และ “กรอบหน้าดูอ่อนแรง” แม้น้ำหนักคงที่ 

เลือกเวลาออกรอบแบบ “ฉลาดผิว” 

  • ถ้าเลือกได้: รอบเช้าตรู่ (ทีออฟ ~6:00–7:00) หรือบ่ายปลาย (~15:30–16:00) ลดพีก UVB และอุณหภูมิสูงสุด 
  • ถ้าจำเป็นต้องตีช่วง 10:00–14:00: เพิ่มมาตรการเชิงรุก เช่น หมวกปีกกว้าง UPF, แว่นกันแดดเลนส์กว้าง, และ รีทัชกันแดดทุก 9 หลุม 
  • วันที่ลมแรง/เมฆบาง: อย่าชะล่าใจ—UVA/UVB ยังถึงผิว (เมฆทำให้เราประเมินผิด) 

กันแดด: จาก “ทา” สู่ “จัดการโดส” 

หลักคิดคือ จัดการโดส (Dose Management) มากกว่าทาครั้งเดียวแล้วจบ 

ก่อนออกรอบ 20–30 นาที 

  • ใช้ครีมกันแดด SPF 50+ / PA++++ เนื้อกันน้ำ กันเหงื่อ ปริมาณให้พอ (ใบหน้า ~สองข้อนิ้วมือ, คอ–ท้ายทอย–ใบหูอย่าลืม) 
  • เสริม กันแดดฟิสิคัล (หมวก UPF, ปลอกแขน, คอผ้า) ช่วยลดโดสจริงได้มากกว่าครีมอย่างเดียว 

ระหว่างรอบ 

  • รีทัชทุก 2 ชั่วโมง หรือ ทุก 9 หลุม เลือกรูปแบบที่ไม่รบกวนเมกอัพ: สติ๊กกันแดด / แป้งกันแดด / สเปรย์กันแดดคุณภาพ 
  • เหงื่อมาก → ซับเหงื่อเบา ๆ ก่อนรีทัช อย่าถูแรง 

ทิปเชิงตำแหน่ง 

ขอบใต้ตา หางตา โหนกแก้มด้านนอก สันจมูก ขากรรไกร และท้ายทอย คือ “ฮอตสปอต” ที่ต้องทาซ้ำมากกว่าส่วนอื่น 

ฟื้นฟูหลังออกรอบ 24 ชั่วโมงแรกสำคัญที่สุด 

ชั่วโมงที่ 0–2 (ทันทีที่เสร็จรอบ) 

  • ล้างหน้าแบบ อ่อนโยน เพื่อลดเกลือเหงื่อ–สารกันแดดตกค้าง 
  • ประคบเย็นเบา ๆ ถ้ารู้สึกผิวร้อนระอุ 

ชั่วโมงที่ 2–12 

  • ลง สารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามิน C, E, เฟอรูลิก / เรสเวอราทรอล) และ ไนอะซินาไมด์ เพื่อลด ROS และการอักเสบระดับเซลล์ 
  • ทา มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อฟิล์ม (มีเซราไมด์–คอเลสเตอรอล) เสริมเกราะผิวที่เสียหายจากแดด/ลม 

กลางคืนวันเดียวกัน 

  • ถ้าผิวไม่ไหม้/แสบ สามารถใช้ เรตินอลความเข้มอ่อน เพื่อเริ่มซ่อมแซมคอลลาเจน (หากมีอาการระคาย เลื่อนไป 48–72 ชม.) 
  • เน้น ชุ่มชื้น และ งดสครับ/กรดผลไม้แรง ๆ 

สัปดาห์ถัดมา 

  • เติม มาส์กให้ความชุ่มชื้น 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ 
  • ใครมีแนวโน้มฝ้า/กระ ใช้ อาร์บูติน/กรดทรานเอกซามิก ตอนเช้าใต้กันแดดอย่างสม่ำเสมอ 

เมื่อต้องเสริมด้วยหัตถการ: “แตะ” อย่างมีกลยุทธ์ 

แนวคิดคือ ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ยังออกรอบได้ต่อเนื่อง 

  • โปรแกรม Thermage FLX: พลังงานคลื่นวิทยุช่วยกระชับคอลลาเจนทั่วหน้า เหมาะกับผิวที่เริ่ม “ยวบ” จาก UVA ระยะยาว ผลค่อยเป็นค่อยไป ดูธรรมชาติ 
  • โปรแกรม Ultherapy Prime: อัลตราซาวด์โฟกัสความลึกชั้น SMAS เน้นยกพยุงโครงสร้าง สำหรับกรณี “กรอบหน้า แนวขากรรไกร” เริ่มอ่อนแรง 
  • โปรแกรม Thermage Eye: โฟกัสรอบดวงตา ลดความย้วยของผิวเปลือกตาบน–ใต้ตา (ฮอตสปอตของนักกอล์ฟหญิง) 
  • โปรแกรมลดริ้วรอยเฉพาะจุด: ลดการย่นซ้ำบริเวณหางตา หว่างคิ้ว (ริ้วรอยไดนามิกจากการเพ่ง/จ้องแสงสะท้อน) 
  • โปรแกรมฟิลเลอร์แบบยกพยุง: สำหรับเงา ร่องที่เกิดจากวอลุ่มหาย ไม่ใช่อัดเต็ม แต่ใช้อย่างพอดีเพื่อคืนมิติ 

เลือกเวลา เว้นช่วงแดดจัด 7–14 วัน และกลับไปวินัยกันแดดเคร่งครัดเพื่อยืดผลลัพธ์ 

สรุปใช้งานจริง 

  • รอบเช้า/บ่ายลดโอกาสผิวไหม้ได้บ้าง แต่ UVA ทำงานทั้งวัน ตัวแปรชี้ขาดคือการ จัดการโดส กันแดดถูกวิธี + รีทัชเป็นจังหวะ + กันแดดฟิสิคัล 
  • ฟื้นผิวภายใน 24 ชั่วโมงแรก ช่วยลดการอักเสบ เม็ดสีเหนี่ยวนำ และคงคุณภาพคอลลาเจนระยะยาว 
  • เมื่อสัญญาณย้วย–ริ้วตื้นเริ่มปรากฏ การเสริมด้วย โปรแกรม Thermage FLX, โปรแกรม Ultherapy Prime, โปรแกรม Thermage Eye, โปรแกรมลดริ้วรอย, โปรแกรมฟิลเลอร์ อย่างมีแบบแผน ช่วย “ชะลอกราฟเสื่อม” โดยไม่เสียไลฟ์สไตล์ออกรอบ 

ผิวสวยของนักกอล์ฟไม่ได้มาจากการหลบแดด แต่จากการรู้จังหวะ ปกป้องเป็น และฟื้นฟูให้เป็นระบบ ทำได้ต่อเนื่อง ผลลัพธ์จะชัดเจนกว่าการแก้แบบครั้งคราวเสมอ